ผู้รับผิดชอบโครงการ :
ลัทธกาญจน์ กุยแก้ว
ที่มาและความสำคัญ :
ตามที่ภาครัฐได้เชื่อมโยงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติเข้ากับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ของประเทศไทย และยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ๒๐ ปี ระหว่างปี ๒๕๖๐ ถึง ปี ๒๕๗๙ โดยน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นการพัฒนาแบบยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่อยู่ และใช้หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชบรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการดำเนินนโยบาย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และยกระดับรายได้ของประชาชน แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร พัฒนาโภชนาการและความปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ของประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑๐ ก็ทรงมีพระปณิธานแน่วแน่ที่จะสานต่อโครงการในพระราชดำริของพระราชบิดา เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
มหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นมหาวิทยาลัยที่พระราชาประสงค์ให้เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นดังนั้น มหาวิทยาลัยราชภัฏมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้จัดทำโครงการบูรณาการพันธกิจสัมพันธ์ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับรายได้ให้กับคนในชุมชน สนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมแบบบูรณาการ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้คนในชุมชนสามารถบริหารจัดการชีวิตตนเองได้อย่างสมดุลและมีความเหมาะสม สามารถดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร่วมกับการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น เพิ่มคุณค่าและมูลค่า เสริมเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนให้มีความ เข้มแข็ง มั่นคง นำไปสู่การพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชนได้อย่างยั่งยืน ส่งผลให้ชุมชนหมู่บ้านมีคุณภาพชีวิตและรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยมีมหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นแหล่งให้ความรู้และเป็นที่พึ่งพิงทางวิชาการ มีบุคลากร นักวิชาการที่มีศักยภาพในการให้บริการวิชาการแก่ชุมชนที่พร้อมจะขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่
บ้านกอก ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เป็นหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากถนนเส้นหลักของอำเภอราษีไศล อาจจัดได้ว่าเป็นชุมชนกึ่งเมือง มีประชากรทั้งหมด 242 คน เป็นชาย 113 คน หญิง 117 คน จำนวนครัวเรือนทั้งสิ้น 57 ครัวเรือน มีสภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่การเกษตร เป็นดินทรายปนร่วน สภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำมีลำน้ำห้วยหุ่งไหลผ่านทางด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน ซึ่งคงความอุดมสมบูรณ์ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน บ้านกอกมีต้นมะกอกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตามริมหนองน้ำมากมายทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านบ้านกอก เดิมได้ขึ้นอยู่กับบ้านอีหนาหมู่ที่ 2 จนกระทั่งปี 2532 จึงได้ขอแยกหมู่บ้านออกมาเป็นหมู่ที่ 12 จนถึงปัจจุบันและมีผู้ใหญ่บ้านคนแรกคือ นายเสาร์ พรมดี สำหรับผู้ใหญ่บ้านในปัจจุบันคือนางรัตนา ทองสุทธิ์
สมาชิกในบ้านกอกส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือการทำนา และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐให้มีอาชีพเสริมอื่นๆ นอกจากทำนา ได้แก่ เลี้ยงวัว เป็ด ไก่ ปลูกพริก ปลูกผัก จำหน่ายทั้งในหมู่บ้านและในตลาดเช้าอำเภอราษีไศล จนกระทั่งปัจจุบันมีการขายผ่านทางเฟซบุ้กด้วย อย่างไรก็ตาม พื้นที่ทำนาของชุมชนมีไม่มาก ส่วนใหญ่จึงได้มีการเสริมอาชีพด้วยการรับจ้างทั่วไปเพื่อให้มีรายได้เพิ่ม และสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยที่ต้องดูแลหลานไม่มีรายได้เสริมนอกเหนือจากการได้รับเงินจากบุตรที่ไปทำงานต่างจังหวัดและเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
วัตถุประสงค์ :
- เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากจิ้งหรีดให้กับชุมชนบ้านกอก ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ
ความต้องการ :
ดังนั้น จึงเห็นถึงความจำเป็นในกาสนับสนุนให้ผู้สูงอายุและสมาชิกในบ้านกอกมีอาชีพเสริมคือการเลี้ยงจิ้งหรีด เนื่องจากจิ้งหรีดเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ไม่ต้องดูแลมาก เติบโตเร็ว สามารถเก็บผลผลิตได้เร็ว และมีราคาขายสูง นอกจากนี้ ยังได้มีการนำจิ้งหรีดมาแปรรูปเป็นข้าวเกรียบจิ้งหรีดและข้าวเกรียบจิ้งหรีด ซึ่งทำให้จำหน่ายได้หลากหลายรูปแบบ การเลี้ยงและแปรรูปจิ้งหรีดจึงสามารถช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับผู้สูงอายุและสมาชิกในบ้านกอกได้ ชุมชนจะมีรายได้ตลอดทั้งปี สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนได้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
จุดเด่น :
-
สรุปผลการดำเนินกิจกรรม :
-
ผลผลิต :
-
ผลลัพธ์ :
-
ผลกระทบ :
-
ระยะเวลาดำเนินการ :
2025-07-24 ถึง 2025-08-09
จำนวนเครือข่ายที่เกิดขึ้น :
-
ร้อยละของรายได้ที่เกิดขึ้น :
-
ความพึงพอใจโดยรวม :
-