ประจำปี
2568
ประเภทงบ
แผ่นดิน
กลุ่มโครงการ
-

โครงการขยายผลเครื่องมือวิศวกรสังคมเพื่อการพัฒนท้องถิ่น

ผู้รับผิดชอบโครงการ :
นายสาคร ผมพันธ์

ที่มาและความสำคัญ :
ตามแนวทางการพัฒนาประเทศที่สอดคล้องกับการจัดทำแผนปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Action Plan) มหาวิทยาลัยราชภัฏมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อ การพัฒนาท้องถิ่น สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และทรัพยากรมนุษย์ของ ประเทศ โดยรวมพลังความเข้มแข็ง และบริบทการดำเนินของมหาวิทยาลัยราชภัฏที่สามารถสร้าง ผลกระทบในวงกว้างที่ตอบโจทย์สำคัญของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยผลของการจัดทำ แผนปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Action Plan) มหาวิทยาลัยราชภัฏ ประกอบด้วยแผนปฏิบัติ การระยะ 5 ปี ในภาพรวมของมหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่ง แผนปฏิบัติการเชิงพื้นที่ของแต่ละภูมิภาค และแผนปฏิบัติการประจำปีของแต่ละมหาวิทยาลัย เพื่อตอบโจทย์ปัญหาในพื้นที่ และปัญหาสำคัญที่ เป็นภาพรวมของประเทศ โดยสนองพระบรมราโชบายด้านการศึกษาซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการ ดำเนินงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ความว่า “การศึกษาคือความมั่นคงของประเทศ การศึกษาต้อง สร้างคนไทยให้มีทัศนคติที่ดี ที่ถูกต้อง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง มีอาชีพ และเป็นพลเมืองที่ดี มีระเบียบวินัย” จากการนำผลการพัฒนามาเป็นแนวทางในการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศ โดยการถอด บทเรียนกระทรวง ส่วนราชการ ภาครัฐ และภาคเอกชน โดยทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของการพัฒนางานวิจัย และนวัตกรรม สู่การพัฒนาประเทศไทยให้มีขีดความสามารถของการแข่งขัน จากประเทศที่กำลังพัฒนาสู่ ประเทศที่พัฒนาแล้วมี (GDP) ที่เพิ่มขึ้น มุ่งพัฒนากำลังคน ความรู้ และนวัตกรรม ดังนั้น การปรับตัวจาก วิทยาลัยครูสู่การเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นกับเป้าหมายท้าทายในการพัฒนาประเทศไทยบนฐาน ทุนทางภูมิสังคมที่กระจาย กันอยู่ทั่วประเทศ โดยใช้พลังขับเคลื่อนของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ทั้ง 38 แห่ง ในการเสริมสร้างพลังปัญญาของแผ่นดิน ฟื้นฟูพลังแห่งการเรียนรู้ เชิดชูภูมิปัญญาของท้องถิ่น โดยการสร้างสรรค์งานวิจัย นวัตกรรม ศาสตร์องค์ความรู้สู่การสร้างทักษะ การจัดการองค์ความรู้และ นวัตกรรมสู่การพัฒนาเชิงพื้นที่ (research and development, R&D) เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากมีความ เข้มแข็ง และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ถือเป็นบทบาทสำคัญของมหาวิทยาลัยราชภัฏในการขับเคลื่อนประเทศไทย มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนมีการพัฒนา ทักษะ (Reskill) ยกระดับความสาร มรถทักษะ (Upskill) และพัฒนาทักษะใหม่ๆ (Newskill) ให้กับประชาชนในท้องถิ่นเพื่อพัฒนาท้องถิ่นสร้าง งานสร้างอาชีพให้ชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และคุณภาพการศึกษาในท้องถิ่น สู่การลดความเหลี่ยมล้ำ ในสังคมทุกมิติ สู่การใช้ศาสตร์/องค์ความรู้ และรวมเอาอาจารย์ บุคลากรที่เป็นนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญหลากหลาย สาขา ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่คลอบคลุมและตอบสนองความต้องการในการแก้ไขปัญหา Pain Point ของใน ท้องถิ่นได้ในการนำองค์ความรู้ นวัตกรรมชุมชน และเทคโนโลยีในระดับชาวบ้านหรือเทคโนโลยีขั้นสูงต่อการ พัฒนาในภาคเศรษฐกิจ บนฐานการสร้างพื้นที่เสริมศักยภาพท้องถิ่นตามโมเดล BCG Model เป็นการพัฒนา เศรษฐกิจแบบองค์รวม ที่จะพัฒนา 3 เศรษฐกิจ ไปพร้อมกัน ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อยู่ภายใต้เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) มีความเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้นและเกิดความยั่งยืนในท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่ง ทั่วประเทศ โดยการนำศาสตร์หรือองค์ความรู้ของ มหาวิทยาลัยมาให้บริการวิชาการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น ผสมผสานกับภูมิปัญญา ท้องถิ่น และองค์ความรู้ของชาวบ้าน เป้าหมาย คือ การยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนยั่งยืนสู่แพลตฟอร์ม ออนไลน์ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจฐานรากจากการท่องเที่ยวชุมชน วัฒนธรรม ภูมิปัญญา พืช สัตว์เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมตัวรองในพื้นที่ โดยใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยเป็นจุดศูนย์กลาง ก่อให้เกิดเครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการ และเกษตรกรแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ ได้รับการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ในชุมชนและท้องถิ่น โดยนำผลผลิตทางการเกษตรที่ เป็นคลัสเตอร์พืชหรือสัตว์เศรษฐกิจ โดยนำพืช หรือสัตว์เศรษฐกิจตัวรองในพื้นที่ให้บริการ สู่กระบวนการ แปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแบบครบวงจรทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เนื่องจากการพัฒนาท้องถิ่นนั้นปัจจัย สำคัญหนึ่ง คือ เศรษฐกิจฐานรากจาก ภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่การขยายช่องทางการตลาดเป็นที่ยอมรับ และตอบ โจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีอัตลักษณ์ประจำท้องถิ่น รวมถึง ผู้ประกอบการชุมชนระดับรากหญ้า เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการและผู้บริโภคในท้องถิ่น และ สามารถสร้างจุดขายด้วยการนำเอาทุนชุมชนมาแปลงเป็นสินค้าเชิงวัฒนธรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ การสัมผัสวิถีชีวิตในท้องถิ่น ก่อให้เกิดการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษจึงได้ดำเนินเนินการพัฒนานักศึกษาให้เป็น “วิศวกรสังคม” โดยมีกลไกพัฒนาหรือกรอบบแนวคิดในการพัฒนา คือ 1)วิเคราะห์ศักยภาพชุมชน 2) ยกระดับองค์ความรู้ในชุมชน 3) สร้างนวัตกรรมเพื่อการแก้ปัญหาชุมชน 4)สร้างความยั่งยืนในการแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ บนฐานข้อมูลของชุมชน โดยเป้าหมายพัฒนานักศึกษาและบุคลากรให้เกิดความเข้าใจแนวคิดกระบวนการพัฒนาโดยใช้เครื่องการวิเคราะห์การทำงานเชิงกระบวนการและเป็นระบบมาดำเนินการพัฒนาตัวบุคคลและพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ในการขับเคลื่อนสังคมชุมชน ซึ่งกระบวนการวิศวกรสังคมเป็นอีกกลไกสำคัญในการบ่มเพาะและพัฒนาบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษาให้มีความพร้อมเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศพร้อมไปกับการนำกระบวนการวิศวกรสังคมและนวัตกรรมมาร่วมเป็นเครื่องมือในการดำเนินงาน จึงได้จัดทำโครงการการมีส่วนร่วมในการจัดการความรู้ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษโดยใช้กระบวนการวิศวกรสังคมเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ที่ผ่านกระบวนการพัฒนานำความรู้ต่างๆ มาร่วมดำเนินกิจกรรมแก้โจทย์ปัญหาเชิงพื้นที่ (Area based) ด้วยตนเองตลอดกระบวนการ โดยมุ่งเป้าที่การสร้างนักศึกษาให้กลายเป็นบัณฑิตนักคิด นักสื่อสาร นักประสาน และนักสร้างนวัตกรรมเพื่อชุมชน นำความรู้จากงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีความพร้อมในการดำเนินการ ไปสู่การฝึกปฏิบัติงานไปพร้อมการทำงานจริง (On Job Training : OJT) มีการใช้เครื่องมือในการพัฒนาสมรรถนะ 5 ชิ้น ประกอบด้วย 1. ฟ้าประทาน สามารถแยกแยะข้อเท็จจริง (Fact) ออกจากอารมณ์และความรู้สึก (Feeling) และยอมรับความเห็นต่างและสามารถหาจุดร่วมเพื่อการพัฒนา 2. นาฬิกาชีวิต วิเคราะห์ข้อมูลด้วย 5W 1H เข้าใจและเคารพวิถีชีวิตของเพื่อนร่วมงานและคนใน ชุมชนเลือกเวลาและประเด็นการมีส่วนร่วมได้อย่างเหมาะสม (Put the right man to the right job) 3. Timeline พัฒนาการ รู้จักคุณค่าอดีต เข้าใจปัจจุบัน เพื่อวางแผนอนาคต 4. Timeline กระบวนการ รู้จักทุกขั้นตอนการดำเนินงานอย่างถ่องแท้เพื่อเลือกพัฒนาตามศักยภาพ อย่างตรงเป้าหมาย (“เกาให้ถูกที่คัน”) 5. M.I.C. Model เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อให้ผู้ผ่านการอบรมมีคุณลักษณะที่สำคัญ 4 ประการ ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้แก่ มีทัศนคติที่ดีและถูกต้อง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง มีอาชีพมีงานทำและเป็นพลเมืองดีมีระเบียบวินัย โดยมีกลุ่มเป้าหมายวิศวกรสังคมของมหาวิทยาลัยราชภัฏที่ผ่านกระบวนการให้ความรู้ในเรื่องการเป็นวิศวกรสังคมพร้อมด้วยคณาจารย์ที่มีความรู้ด้านวิศวกรสังคมมาร่วมดำเนินการจริงในพื้นที่ขยายผลในการดูแลของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ให้นักศึกษามีความสามารถและทักษะเพื่อการดำรงชีวิตและการทำงานในอนาคต สามารถแก้ปัญหาและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนได้ ประกอบด้วยทักษะ 4 ประการ ดังนี้ 1. นักศึกษาต้องมีทักษะในการคิดวิเคราะห์ เห็นความเชื่อมโยงระหว่างเหตุและผลเห็นปัญหาเป็น เรื่องท้าทาย 2. การนำความรู้ที่เรียนไปใช้ประโยชน์ให้กับชุมชน และสามารถสื่อสารองค์ความรู้ที่เรียนไปเพื่อ นำไปแก้ปัญหาให้กับชุมชนได้ 3. การทำงานร่วมกับผู้อื่นโดยปราศจากข้อขัดแย้ง สามารถที่จะระดมกำลังไม่ว่าจะภายในท้องถิ่น หรือนอกท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นได้ 4. มีทักษะในการสร้างนวัตกรรม เพื่อแก้ปัญหาให้กับชุมชนท้องถิ่นได้ จากกระบวนการพัฒนาทักษะวิศวกรสังคมโดยมีชุมชนเป็นฐานการเรียนรู้นำไปสู่การต่อยอดให้นักศึกษาวิศวกรสังคมได้รับการพัฒนาเป็นผู้ประกอบการ โดยการบ่มเพาะวิสาหกิจ(UBI)มีรายได้ระหว่างเรียนสร้างโอกาสในการพัฒนาตนเองที่มีความมั่นคงในการประกอบวิชาชีพในสังคมได้ มหาวิทยาลัยจึงจัดโครงการยกระดับนวัตกรรมชุมชนด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม

วัตถุประสงค์ :

  • เพื่อบ่มเพาะและพัฒนานักศึกษาให้มีทักษะ Soft Skills ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม ที่สามารถคิดวิเคราะห์เชิงเหตุและผล มีทักษะในการสื่อสาร การประสานงานพร้อมทั้งมองเห็นปัญหาเป็นเรื่องท้าทาย บูรณาการองค์ความรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน
  • เพื่อส่งเสริมและพัฒนานักศึกษาวิศวกรสังคมมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ให้มีบทบาทและส่วนสำคัญในการพัฒนาสังคมชุมชนท้องถิ่น และสถานประกอบการท้องถิ่นที่มีบุคลากรเป็นกลไกหลักในการพัฒนา
  • เพื่อนำองค์ความรู้หรือนวัตกรรมที่มีในมหาทวิทยาลัยไปใช้ประโยชน์ในการส่งเสริมให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองและจัดการตนเองได้อย่างยั้งยื่น

ความต้องการ :
1. นักศึกษาต้องมีทักษะในการคิดวิเคราะห์ เห็นความเชื่อมโยงระหว่างเหตุและผลเห็นปัญหาเป็น เรื่องท้าทาย 2. การนำความรู้ที่เรียนไปใช้ประโยชน์ให้กับชุมชน และสามารถสื่อสารองค์ความรู้ที่เรียนไปเพื่อ นำไปแก้ปัญหาให้กับชุมชนได้ 3. การทำงานร่วมกับผู้อื่นโดยปราศจากข้อขัดแย้ง สามารถที่จะระดมกำลังไม่ว่าจะภายในท้องถิ่น หรือนอกท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นได้ 4. มีทักษะในการสร้างนวัตกรรม เพื่อแก้ปัญหาให้กับชุมชนท้องถิ่นได้

จุดเด่น :
-

สรุปผลการดำเนินกิจกรรม :
-

ผลผลิต :
-

ผลลัพธ์ :
-

ผลกระทบ :
-

ระยะเวลาดำเนินการ :
2568-01-10 ถึง 2569-03-01

จำนวนเครือข่ายที่เกิดขึ้น :
-

ร้อยละของรายได้ที่เกิดขึ้น :
-

ความพึงพอใจโดยรวม :
-